ใครหลายคนคงจะต้องใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันกันอยู่แล้ว เรื่องที่คนส่วนมากมักละเลยคือการดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน ทั้งที่จริงแล้ว แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ระบบไฟฟ้าของรถทำงานได้ตามปกติ หากแบตเตอรี่มีปัญหา รถยนต์จะไม่สามารถสตาร์ทได้ และอาจทำให้เกิดความเสียหายอื่นๆ ตามมา การดูแลแบตเตอรี่อาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้แบตเสื่อมเร็วโดยไม่รู้ตัว
เคยไหมที่คุณเปิดไฟหน้าทิ้งไว้หรือฟังเพลงในรถโดยไม่ได้ติดเครื่องยนต์? พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ การที่แบตถูกใช้งานจนหมดบ่อยครั้งไม่เพียงแต่ทำให้ต้องเสียเวลาในการชาร์จแบตใหม่ แต่ยังลดอายุการใช้งานโดยรวมของแบตอีกด้วย เพราะฉะนั้นการแก้ไขง่ายๆ คือ การเช็คระบบไฟและดับไฟทั้งหมดก่อนลงจากรถเสมอ และหากคุณจอดรถไว้นานโดยไม่ได้ใช้งานเช่นการไปจำนำรถยนต์จอดทิ้งไว้นานๆ ก็ควรสตาร์ทรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง เพื่อให้ระบบไฟฟ้าภายในรถยังทำงานได้ปกติ
เลี่ยงนิสัยเสี่ยงที่ทำลายแบตเตอรี่
นอกจากการปล่อยให้แบตหมดบ่อยครั้งแล้ว การไม่ดูแลขั้วแบตเตอรี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แบตเสื่อมเร็ว คราบสนิมหรือขี้เกลือที่สะสมบนขั้วแบตเตอรี่จะลดประสิทธิภาพการส่งกระแสไฟฟ้า และอาจทำให้ระบบไฟฟ้าของรถผิดปกติ ในกรณีที่ขั้วแบตมีคราบสกปรก สามารถใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาเช็ดทำความสะอาดได้ และควรตรวจสอบเป็นประจำทุกเดือน
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกที่จอดรถ หากจอดรถในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน เช่น กลางแดดในช่วงเที่ยงวัน แบตเตอรี่อาจสูญเสียประจุเร็วและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ หากไม่มีที่จอดในร่ม ควรใช้ผ้าคลุมรถหรือหาวัสดุป้องกันความร้อนเพื่อช่วยลดผลกระทบจากความร้อนสะสม
การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสม
การเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับรถยนต์ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนอาจคิดว่าแบตเตอรี่ทุกแบบใช้งานได้เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วแบตเตอรี่แต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อรองรับระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกัน เช่น รถยนต์ที่ใช้ระบบสตาร์ท-สต็อปจะต้องใช้แบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานเฉพาะทาง หากเลือกแบตเตอรี่ที่มีกำลังไฟไม่เหมาะสม รถยนต์จะทำงานได้ไม่เต็มที่ และแบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วขึ้น
ก่อนเลือกซื้อแบตเตอรี่ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด หรือปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้แบตเตอรี่ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด ทั้งนี้ การเลือกแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความยุ่งยากจากปัญหาแบตหมด
ดูแลแบตเตอรี่ให้อายุยืนยาว
นอกจากข้อห้ามที่กล่าวมา การดูแลแบตเตอรี่ให้คงประสิทธิภาพสูงสุดยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย เช่น การหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าขณะดับเครื่องยนต์ หรือการนำรถออกวิ่งในระยะทางที่สั้นเกินไป โดยรถยนต์ควรวิ่งอย่างน้อย 20-30 นาทีต่อครั้ง เพื่อให้ระบบไฟฟ้าและไดชาร์จทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายนี้ การใส่ใจเรื่องแบตเตอรี่อาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ผลกระทบที่ตามมานั้นใหญ่หลวงกว่าที่คิด การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อแบตเตอรี่และการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางได้
ข้อห้ามที่ควรรู้ไว้หากไม่อยากให้แบตรถพังไว
แบตเตอรี่รถยนต์มีบทบาทสำคัญในการทำให้รถสามารถใช้งานได้อย่างปกติ หากละเลยในการดูแลรักษาหรือทำพฤติกรรมที่ส่งผลเสีย อาจทำให้แบตเสื่อมเร็วเกินควร บทความนี้สรุปข้อควรระวังและวิธีหลีกเลี่ยงการทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว โดยมีเนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลัก ดังนี้:
1.พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง
- ไม่ควรเปิดไฟหน้าหรือระบบไฟฟ้าทิ้งไว้โดยไม่สตาร์ทรถ เพราะอาจทำให้แบตหมดประจุเร็วกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้นานโดยไม่สตาร์ทเครื่อง ซึ่งจะทำให้แบตสูญเสียประจุทีละน้อย
2.การดูแลแบตเตอรี่
- หมั่นตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่และทำความสะอาดคราบสนิมหรือขี้เกลือที่อาจสะสมบนขั้วแบต
- จอดรถในที่ร่มหรือใช้ผ้าคลุมเพื่อป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมจากความร้อนสูง
3.การเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสม
- ควรเลือกแบตเตอรี่ให้ตรงกับระบบของรถ เช่น รถที่ใช้ระบบสตาร์ท-สต็อปต้องใช้แบตเตอรี่เฉพาะทาง
- หลีกเลี่ยงการซื้อแบตเตอรี่ราคาถูกเกินไป เพราะอาจไม่มีคุณภาพและอายุการใช้งานสั้น
การดูแลแบตเตอรี่ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เพียงแค่ใส่ใจในพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ และตรวจสอบระบบไฟฟ้าของรถอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะเกิดปัญหาในระหว่างเดินทางอีกด้วย