เมษายน 27, 2025
อาการเด็กติดเกม เล่นเกม ไม่ยอมไปไหนเกิดจากอะไร Madrid, Spain - August 15, 2018: Teenager playing Fortnite video game on PC. He is raising his fist in a victory gesture. Fortnite is an online multiplayer video game developed by Epic Games

อาการเด็กติดเกม เล่นเกม ไม่ยอมไปไหนเกิดจากอะไร

ทุกวันนี้ไม่ว่าไปที่ไหนก็มักจะเห็นเด็ก ๆ เล่นเกมอยู่บนหน้าจอมือถือหรือแท็บเล็ตอย่างไม่ละสายตา บางคนเล่นต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงโดยไม่ยอมลุกไปไหน ไม่ยอมทำกิจกรรมอื่น ไม่อยากเข้าสังคม หรือแม้แต่ปฏิเสธที่จะออกจากบ้าน หากคุณเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองหรือครูที่พบพฤติกรรมแบบนี้ในเด็กใกล้ตัว นี่คือบทความที่คุณควรอ่าน เพราะเราจะพาไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการเด็กติดเกมและแนวทางจัดการอย่างสร้างสรรค์

พฤติกรรมแบบไหนที่เข้าข่ายว่าเด็กติดเกม

  • ใช้เวลาเล่นเกมมากเกินไปจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
  • เล่นเกมแล้วแสดงอาการหงุดหงิดหากถูกขัดจังหวะหรือให้หยุด
  • ไม่ยอมเข้าสังคมหรือเลี่ยงกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น
  • ขาดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบหรือกิจกรรมที่เคยร่วมทำกับครอบครัว
  • มีผลการเรียนตกต่ำเพราะใช้เวลาไปกับเกมมากเกินไป

สาเหตุที่ทำให้เด็กติดเกม

การเลี้ยงดูที่ขาดสมดุล

พ่อแม่บางคนอาจใช้เกมเป็นเครื่องมือในการทำให้ลูกอยู่เฉย ๆ หรือเงียบโดยไม่ได้วางกรอบเวลา ทำให้เด็กเรียนรู้ว่าการเล่นเกมคือสิ่งที่ตอบโจทย์ความสบายใจโดยไม่จำเป็นต้องมีขีดจำกัด

เกมถูกออกแบบมาให้ติด

เกมในปัจจุบันมีระบบที่ดึงดูดให้ผู้เล่นอยู่กับเกมได้นาน เช่น การปลดล็อกรางวัล การแข่งขันแบบเรียลไทม์ การสะสมไอเท็ม และระบบเลเวลที่ให้ความรู้สึกของความสำเร็จเร็ว

ความเครียดและการขาดพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์

เด็กบางคนอาจใช้เกมเป็นที่หลบหนีจากความเครียด ปัญหาครอบครัว หรือความกดดันจากโรงเรียน เพราะในเกมพวกเขารู้สึกว่าควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้และได้รับการยอมรับ

ขาดกิจกรรมทางเลือกที่ดึงดูดใจ

ในสังคมที่เด็กขาดพื้นที่สีเขียวหรือกิจกรรมสร้างสรรค์ การเล่นเกมจึงเป็นตัวเลือกที่ง่ายและเข้าถึงได้ตลอดเวลา

ผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น

  • ปัญหาการเข้าสังคม เด็กที่ติดเกมมากเกินไปอาจขาดทักษะในการสื่อสารและปรับตัวกับคนรอบข้าง
  • พฤติกรรมก้าวร้าวหรืออารมณ์แปรปรวน โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้เล่นเกมตามต้องการ
  • ปัญหาด้านสายตา สุขภาพร่างกาย และการนอนหลับที่ถูกรบกวนจากหน้าจอ
  • เสพติดพฤติกรรมที่ให้รางวัลทันใจ ทำให้ขาดความอดทนหรือไม่พร้อมรับมือกับโลกแห่งความจริง

แนวทางรับมือเด็กที่มีอาการติดเกม

ไม่ห้ามแบบหักดิบแต่ให้คุยกันด้วยความเข้าใจ

การสื่อสารสำคัญมาก เปิดใจพูดคุยกับเด็กว่าเพราะอะไรเขาถึงอยากเล่นเกมมากขนาดนั้น และพยายามเข้าใจสิ่งที่เขาเผชิญอยู่

สร้างตารางเวลาและขอบเขตที่ชัดเจน

ควรกำหนดเวลาเล่นเกมที่เหมาะสม เช่น วันละไม่เกิน 1 ชั่วโมงหลังทำการบ้านหรือภารกิจเรียบร้อย พร้อมทั้งให้มีเวลาสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย

สร้างกิจกรรมทางเลือกที่สนุกและสร้างสรรค์

หากเด็กมีทางเลือกที่น่าสนใจกว่าการเล่นเกม เช่น เล่นกีฬา ทำอาหาร วาดรูป หรือทำโปรเจ็กต์ร่วมกับครอบครัว จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากเกมได้

เป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องการใช้สื่อ

ผู้ใหญ่ควรแสดงให้เห็นว่าการใช้เวลาอยู่หน้าจออย่างเหมาะสมเป็นอย่างไร เพื่อให้เด็กซึมซับพฤติกรรมที่ดีโดยไม่ต้องสั่งสอนมากเกินไป

ขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น

หากปัญหาเริ่มกระทบกับชีวิตประจำวันของเด็กและครอบครัว ควรพิจารณาปรึกษานักจิตวิทยาเด็กหรือผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรม

สรุป

อาการเด็กติดเกมไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขไม่ได้หากเข้าใจต้นตอของปัญหาอย่างถ่องแท้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรับฟังและร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช้ความรุนแรงหรือวิธีที่ทำให้เด็กต่อต้าน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมีเวลาให้กันมากพอ จะช่วยลดโอกาสที่เด็กจะหลีกหนีเข้าไปอยู่ในโลกของเกมเพียงอย่างเดียว